วันพุธที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Joe Amarin - Simply Me


                                              
                                            Joe Amarin - Simply me

เป็นอัลบั้มเดี่ยว อัลบั้มเดียว ที่กูเคยมี แต่ตอนนี้ เพื่อนยืม ทำหายไปแล้ว
Joe Amarin - Simply me หรือ โจ้ อัมรินทร์ อัลบัม Simply Me แปลว่าอะไรก็ไม่รู้ ช่างแม่ง
ทุกคน ที่เคยฟัง วง Pause แนวอินดี้ สนุกๆ เพลงช้าก็เพราะจับจิต ก็จะรู้ว่า เขาเคยเป็นนักร้อง ของวงนั้น
ซึ่งปัจจุบันนี้ เขายังมีชีวิตอยู่ โลดแล่นอยู่บน แผ่นผืน ม้วนเทป,CD และก็ ตามโลก Internet
น้ำเสียง ของเขา ที่บรรจงขัดเกลา ออกมาเป็นจังหวะท่วงทำนอง ออกมา สู่รูหู ประชาชนทั้งหลาย รวมทั้งตัวกูด้วย
ต้องสยบ หยุดนี่ง ด้วยว่า เพลง แม่งเหงาจังวะ จะเศร้าไปไหน ร้องเพลงเสร็จแล้วจะรีบไปตายใช่ไหม

เอาหละเข้าเรื่องอัลบั้มนี้ซักที นานๆ กูก็ จะมารีวิว ปีละครั้งมั้งนี่
Joe Amarin - Simply me อัลบั้มนี้ ออกมาปีไหนก็ไม่รู้หวะ นานแล้ว ขี้เกียจศึกษา
แต่รู้กันว่า อัลบั้มนี้ จะเอาเพลงเก่ามาร้องใหม่ ในแบบของเขาเอง ที่เขาชอบ
แล้วกูก็เสือกชอบตามเขาอีกที
แต่ละเพลงก็เป็นเพลงเก่าที่คุ้นหูกันบ้าง ต้นฉบับเป็นของใครร้องมาก่อน กูก็ไม่รู้อีกหละ ขี้เกียจศึกษา ช่างหัวแม่มัน เพลงมีไว้ฟัง
และก็สาเหตุที่กูทำไม พึ่งจะเอามารีวิว ก็เพราะด้วย เหตุผลส่วนตัวกู มึงไม่ต้องรู้หรอก

อุ๊ย!! เริ่มกันเลยดีกว่า เพลงแรก

1. เดือนเพ็ญ
     เป็นเพลงที่คุ้นหูกันดี หงา คาราวาน หรือ แอ๊ด คาราบาว ก็เอามาร้อง
ซึ่งเพลงนี้ Intro ขึ้นด้วยการเกากีต้าร์โปร่ง ตามด้วยเสียงเปียนโน แล้วก็เสียงร้อง
"เดือนเพ็ญ สวยเย็นเห็นอร่าม นภาแจ่มนวลดูงาม เย็นชื่นหนอยามเมื่อลมพัดมา"
จะได้ฟิวล์ กันคนละอย่างกับทำนองเพื่อชีวิต เลย
     ทำให้อารมณ์ผมบรรเจิด นึกถึง บรรยากาศ ท้องทุ่งนาแถวบ้านนอกกูเลย บรรยากาศเย็นๆ ตอนกลางคืน เงียบๆ ลมหนาวพัดโบก เข้ากระแทกกาย รู้สึกเย็นยะเยือก ระหว่างที่นั่งผิงไฟ นั่งคุยกันกับเพื่อนๆ ตามด้วยการ จิบเหล้าขาว อ่าาาา อุ๊ยส์!!
ฟังแล้วเหงาคิดถึงบ้าน ขึ้นมากันเลยทีเดียว

2. อย่าหยุดยั้ง
    ที่คุ้นหู น่าจะเคยฟังของ วง The Olarn Project นะ พี่โป่ง หัวเถิก แต่ไว้ทรงผมยาวสลวย สวยเงางาม(ไปโฆษนา แชมพูก็ยังได้เลย) เป็นคนร้อง เสียงสูงปรี๊ดแตก
และแล้ว คุณโจ้ ก็เอามาร้อง ซะเลย ปกติก็เสียงสูงอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ถึกกับ เสียงปรี๊ดแตกอย่าง น้า โป่งหัวเถิก นั่น

ดังเนื้อเพลงท่อนฮุค ดังต่อไปนี้
"วันเวลาที่แสนเศร้าคงจางไป ไม่นานความสดใสที่เธอหวังคงคืนมา
โอ้พรอันใดศักดิ์สิทธิเพียงไหนจงบันดาล สู่แดนดินแด่ตัวเธอผู้ช้ำตรมในดวงใจ
ให้หายความจาบัลย์"

     คุณเชื่อไหมว่า เพลงนี้เป็นเนื้อเพลง ที่ให้กำลังใจกัน เวลาท้อแท้ หรือพ่ายแพ้มา
แต่ คุณโจ้เอามาร้อง และ ถ่ายทอดอารมณ์ ได้ดีมาก
ช่วงท่อนเศร้าๆ อย่างเช่น คำว่า "เศร้า" เสียงก็อ่อยๆ เหงาๆ
พอถึงท่อน ที่ จะต้องให้สู้ อย่างเช่น คำว่า "สมหวัง" ก็จะใช้เสียงกระแทกเข้าให้กำลังใจ
แต่ดนตรี โดยรวมๆ ก็ยังคง ให้บรรยากาศ เหงาๆ หม่นๆ อยู่

3. เติมใจให้กัน
   ฟังแค่ Intro ที่เป็นเปียนโนขึ้นมา น้ำตากู เกือบจะร่วงแล้ว พอเข้าท่อนตัวเพลง ก็ทำให้กูตกอยู่ใน ภวังค์ กันเลยทีนี้
    จะทำอะไรอยู่ตอนนั้น ต้องติดนิ่ง แล้วต้องเอนตัวลงนอน หลับตาฟัง(ถึงจะดี) ซึมซับเอาดนตรี และเสียงร้องที่มัน เหงาาา เหงาเหี้ยอะไร เช่นนี้
    ชื่อเพลงก็บอกอยู่ว่า เติมใจให้กัน แล้วจะให้เติมเข้าไปได้ยังไง ในเมื่อทั้งดนตรี และ คนร้อง มันแสดงออกถึงความเหงา ขนาดนี้
     ถึงแม้ว่า จังหวะดนตรี จะเป็นจังหวะ กลางๆ มีเสียงตบกลองดัง โป๊ะๆ บ้างก็เถอะ มันช่างให้ความรู้สึกว่า เพลงนี้ คนรัก อยู่ห่างไกลกัน ไกลแสน...ไกล

4. ใจบางบาง
     ภาคต่อของ เพลง เติมใจให้กัน เมื่อฟังเพลงนั้นจบ ต่อด้วยเพลง ใจบางบาง นี้ แทบจะต้องไม่ลุกไปไหนเลย มันสามารถทำให้เราตัดเข้าโหมด "โลกส่วนตัว" ทันที!!  โอ้ว!... อะไรจะขนาดนั้น
แต่มันเป็นเรื่องจริงสำหรับกู มึงไม่ใช่ก็แล้วไป

    เนื้อหาเพลงโดย รวมๆ จะประมาณว่า ไปชอบสาว แล้วเพ้อคิดไปเอง แล้วไม่สมหวัง แม่งโคตรศิลปิน
ซึ่งแค่ขึ้นเนื้อคำแรกๆ ก็โดนใจแล้ว

"เป็นเพราะเรา เป็นเพราะเรามากกว่า  เป็นเพราะใจ เป็นเพราะใจเราอ่อน
อ่อนแออยู่เสมอ เพียงพบคนถูกใจ    เก็บมาใส่ดวงใจฉันไว้ ฝันลมๆ มากมาย"

ถ้าสังเกตดีๆ ฟังเมโลดี้ที่เป็นคีบอร์ด วี วี่ วี้ ตามตลอด มันทำให้รู้สึก เหงาเพ้อ อะไรเช่นนี้

สรุปเลยว่า ทำนองเนื้อหาทำให้เจ็บจี๊ด และก็เหงาๆ หม่นๆ ปนกันไปเลย

5. ข้างขึ้นเดือนหงาย
    โอ้ววว เกือบตาย หลังจากฟังเพลง พวกที่มันเหงาๆ เศร้าๆ มาจะครึ่งอัลบั้ม นึกว่า มันจะเอากูให้ตายเลยหรอ แต่กลับไม่ใช่เพลงนี้ มันตรงกันข้ามกันเลย
     เพลงนี้ เปรียบเสมือน ปลุกประชาชนอย่างกู ให้ตื่นจาก "โลกแห่งความเหงา"
แคะขี้หูขี้ตา ตื่นนอน อาบน้ำ แปลงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็วิ่งออกไปทุ่งนา แล้วชักว่าว เอ้ย! ไม่ใช่ๆ จอนห์ชาวไร่ หนะเฮ้ย์!!
     มันทำให้กูคึกครื้น มันทำให้ได้ บรรยากาศ ทุ่งนาสีเขียว รอบข้างเป็นป่าเขียวชอุ่ม ใบไม้ ต้นหญ้าเปียกหมาดๆ หลังจากฝนพึ่งหยุดตก เห็นสายรุ้งทอดยาว ปนกับแสงแดด อ่อนๆ ของตะวัน กำลังจะ พลบค่ำ ที่พอจะให้วิ่งเล่น ตามสนามกลางแจ้ง แบบเหมือนสมัยเด็กๆ
*แต่นั่นเพราะว่า อารมณ์ ของดนตรีมันพาไป

ถ้ามาย้อนฟังเนื้อหา แล้วก็ชื่อเพลง ไอ้ห่าาา มันเป็นบรรยากาศตอนกลางคืน.. !!

" ข้างขึ้นเดือนหงาย เราขี่ควายชมจันทร์ เพลิดเพลินใจฉัน โคมสวรรค์พราวพราย "

โอ้ย ดึกดื่นป่านนี้ ยังจะเอาควายออกมาขี่อีก ให้มันพักบ้าง กลางคืนมันก็นอนเหมือนคน นั่นแหละ
คุณพี่จะขี้เหงาไปไหน ดูเนื้อร้องท่อนนี้สิ

" ไขว่ห้างนั่งเฉย เอ้อระเหยลอยชาย เป่าขลุ่ยเพลงหนังบนหลังควาย ชื่นพระพรายโชยมา "

ปลีกวิเวก สินะ อย่าปล้ำควาย เข้าหละ
แล้วก็มีอีกท่อนที่แสดงถึงความเหงา

" แม้ว่าต้องการเพื่อนคุย ฉันมีเจ้าทุยสนทนา พูดจาตอบถามตามประสา ลัดเลี้ยวคันนาตามชอบใจ "

ตบท้ายด้วยท่อนไกล้จะจบเป็นการปลอบใจตัวเองหน่อยๆ ว่า

" แต่หนุ่มชาวเมืองหลวง พาคู่ควงเปลืองครัน อยู่กรุงอยู่นา ไอ้มันก็ฟ้าเดียวกัน
ขี่ควายขี่เก๋งก็เหมือนกัน ก็พระจันทร์ดวงเดียว "

เพลงเร็วก็ยังไม่ทิ้ง คอนเซ็บ คนขี้เหงา เฮ้ออ......~~

6. อดีต
  คุณคงเห็นชื่อเพลงแล้วนะครับ คำว่า "อดีต" ทำใจไว้แลยครับ เศร้าแน่นอน
เพลงที่ ฟังผ่านๆ มาหนะ นั่นแค่เหงา นะครับ แต่เพลงนี้ น้ำตาคลอเบ้า ฟังอินโทรที่เป็นเปียนโน นะ โอ้ยยยย ระทม
ทำไมกูเป็นคนอ่อนไหวเช่นนี้.... 555+


ส่วนของเนื้อหา เป็นเรื่องเลิกรา กับคนรัก แล้วหวนคิดถึงอดีต และก็ยังมีการให้กำลังใจตัวเองหน่อยๆ ตัวอย่างเช่น

"อดีตที่หวานให้มันผ่านลอยลับไป จวบถึงวันใหม่ไม่มีเสียใจหมองหม่น"

ฟังๆ ดูแล้วเป็นการปลอบใจที่ดี แต่มันเหมือนหลอกตัวเอง หวะ
ในเมื่อดนตรีอย่างเศร้า คนร้อง ก็เหมือนกำลังจะไปตาย
ใคร อกหัก มาฟัง กูว่า น้ำตาร่วง กันแน่ๆ โดยเฉพาะท่อนโซโล่ จะเป็นเปียนโน โซโล่ให้เราหยุดคิดจินตนาการ ถึงความเศร้าหม่น ตามไปด้วยอีก โอ้ว!!! คักหลาย

7. รักเองช้ำเอง
    intro ขึ้นมาได้ยินเสียงกีต้าร์โปร่ง เวลาดีดสับลงบนสายกีต้าร์แรงๆ จนสายกีต้าร์ กระแทกกับเฟรต ดังแครกๆๆ...~~
    เป็นเพลงเดียว ที่ได้ยินเสียงกีต้าร์โปร่ง ได้ไกล้ชิดขนาดนี้ เพลงนี้กีต้าร์เป็นพระเอก เปียนโน สอดประสานจังหวะ แล้วก็มี ซาวด์คีบอร์ด วี วี่ วี้ มาเป็น แบคกราวด์
แต่ช่วงโซโล่เพลงนี้ เปียนโนเป็น ตัวละเลง กีต้าร์ให้จังหวะ
ท่อนจบคุณจะได้ยินเสียง ฮาโมนิคกีต้าร์ ดัง วิ้งงง...~~~

รู้สึกว่ากดใน google ผ่านๆ อริจิน่อล เป็นของ ชรัส เฟื่องอารมณ์ หรือเปล่าวะ เกิดมาฟังไม่ทัน
กูรู้จักแต่ ชลิต เฟื่องอารมณ์ ที่อยู่ๆ ก็ ผันตัวไป เสพ บุรุษ

เนื้อหา ประมาณว่า รักเขาอยู่ในใจ อยู่ๆ ก็เสือกไปรักเขา เขาเคยขอความรักไหม ก็ไม่
ดังนั้นในเมื่อมึงไปรักเขาเอง มึงก็เจ็บเอง ช้ำเอง จะไปโทษใครห๊ะ!! ไอ้ผู้มีอารมณ์ศิลปินเอ๋ย เชี่ย!

เนื้อร้องตอนขึ้นเพลงจะเป็นแบบนี้

"รักเองช้ำเอง เราอวดเก่ง จะโทษใคร เขาขอความรักไหม หัวใจให้เขาเอง
ช้ำใจ ไม่เป็นไร ก็ตัวเราเอง ก็หัวใจเราให้เขาเอง คิดไปเอง โอ้ตัวเรา
ช้ำเอง เจ็บเอง ต้องเสียใจ เพราะเรา เราใช่ไหม จะโทษใคร ก็ตัวเราเอง"

เป็นเพลงที่ฟังแล้ว เหงามาก บางคนอาจจะคิดว่า เนื้อหามันงี่เง่า
แต่สำหรับผมแล้ว มันแทงใจดำผมสุดๆ

8. ลาสาวแม่กลอง
   เป็นสาวทางภาคเหนือ หรือเปล่าวะ กู กด ดู ใน google มันอยู่สมุทรสงคราม รู้สึกว่าจะเป็นชื่อแม่น้ำทางภาคตะวันตก ช่างแม่งเหอะ ไม่รู้อยู่แถวไหน
   อย่างไรก็ดี กูคงคิดว่าจะออกไปทาง หมวยๆ ขาวๆ น่าตาน่ารักๆ หุ่นดี นมใหญ่ ไม่งั้นเพลงนี้ คงจะไม่อาลัยอาวร ขนาดนี้
   เนื้อหา จะเป็นว่า ผู้ชายไปเป็นทหารเรือ คงจะอยู่แม่กลอง ด้วยกันอยู่แล้วกระมัง ถึงจึงได้ขึ้นรถไฟ จากนางมา แล้วก็รำพึง ถึงตอนพาสาว เข้าวัดทำบุญ ขนะที่ตัวเองนอนหลับ ได้ยินเสียงฟ้าร้องอยู่
   ดนตรี เสียงกีต้าร์โปร่ง กับ เปียนโน ขับเคี่ยวมา เท่าๆ กันเลยหละ หลับตาฟังเพลินกันเลยทีเดียว
รู้สึกว่าเพลงนี้ ไม่ค่อย เศร้าเท่าไหร่ เพลินดี หรืออาจจะเป็นเพราะว่ากูไม่ได้เป็นทหารเรือ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่า แม่กลอง มันอยู่ที่ไหน ก็เป็นได้
แต่ก็ยังไม่ทิ้ง ความเหงา ที่เป็นโลโก้ ของอัลบั้มนี้อยู่

9. เหมันต์
   เหมันต์ ดูชื่อเพลงสิ คงจะเป็นสมัยรุ่นพ่อเลย เจอ ศัพท์ นี้เข้าไป
เหมันต์ แปลว่าอะไร มันเป็นคำสมาส ระหว่างคำว่า "หา" กับ "มัน" คือเวลาไปขุดมัน เวลารีบๆ ขี้เกียจคุย ก็เลยเรียกว่า หามัน หามัน หามันส์ หามันต์ "เหมันต์" นั่นแหละ ก็ด้วยประการเช่นนี้แล 55555++
มั่วได้ใจเลยหวะ จริงๆ แล้วมันเป็นภาษาบาลีหวะ แปลว่า ฤดูหนาว กูรู้เพราะว่า กด Google อีกแล้ว
ไม่งั้นคงต้อง ขุดมัน หาเผือก กันต่อไป
   เพลงนี้คุณจะได้เจอคำ ศัพท์ รุ่นพ่อ อยู่เยอะพอควร เช่น เอกา, ฤทัย ที่บรรจงแต่งไว้ได้ อย่างสลวยสวยงาม
    เนื้อหา เป็นการเปรียบเปรย ถึงฤดูกาล ที่เปลี่ยนไป เห็นภาพแม้กระทั่ง ใบไม้ร่วงโรย ดั่งเช่นความ รักที่ผ่านพ้นไป แล้วก็อาลัย เสียใจร้องไห้
     อยากจะบอกว่า อารมณ์เพลงนี้ หม่นหมองมากๆ ทั้งเศร้า อาลัย ร้องไห้ คนอะไรจะ รันทดถึงเพียงนี้วะ  มันให้อารมณ์อย่างนั้นจริงๆ ฟังแล้วแทบ กลั้นขี้ เยี่ยวไม่อยู่เลย ทวารทั้ง 9 เปิดหมดเลย
ดนตรีแม่งก็เศร้า บรรยากาศ มันเหมือนไปอยู่ๆ ในที่ เงียบๆ อ้างว้าง แล้ว ลมหนาวแห้งๆ เข้าปะทะที่ตัวเราเลย ทำให้รู้สึกโดดเดียว .. ~~

10. พี่รักเจ้า
    พูดถึงเรื่องดนตรีก่อนเลย เหมือนภาคต่อจากเพลง เหมันต์ Intro ฟังแล้วรู้สึกว่า ยังกับว่า จากโลกนี้ไปแล้ว พูดง่ายๆ คือ เดธสะมอเร่
เหมือนอยู่ใน ภวังค์ ของ กึ่งหลับกึ่งตื่น บรระยากาศ เวิ้งว้าง ท่ามกลางความว่างเปล่า น้ำเสียงคนร้อง เครือๆ เหมือนจะ ร้องไห้ด้วย มันจะ ระทม ขมขื่น ไปไหนอีก
มันไม่ใช่แค่คน ขี้เหงาธรรมดาแล้ว มันช่างโคตรจะ "ตายแล้วยังเหงา"

     เนื้อหา เปรียบเปรยสิ่งต่างๆ นานา ว่า พี่รักเจ้ายิ่งกว่า สิ่งนั้น แล้วก็จะอุดมไปด้วยคำศัพท์ เท่ห์ๆ ตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ
เช่น ยุพา มฤคา นงเยาว์ เป็นต้น
ใช้ภาษาในการเปรียบเปรย ได้อย่างมีชั้นเชิงมาก เป็นเพลงสุดท้ายของ อัลบั้ม ที่จบได้อย่างน่าประทับใจมาก


โดยรวมๆ ของอัลบั้มนี้ บอกได้เลยว่า มีคุณภาพ มากๆ
รายละเอียดเยอะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพลงที่ไม่ มีกลองชุด ก็ตาม(ก็มันเป็น Simply นี่หว่าเนอะ พ่อง)
ถ้าจะพูดว่า ซึ้งทั้ง อัลบั้ม!! ผมจะไม่ขอเอ่ยถึง เพราะว่า คำว่า "ซึ้ง" มันน่าจะแปลว่า "เข้าใจ" มากกว่า
ที่ฟัง ทั้งอัลบั้มดูแล้ว ผม ไม่เข้าใจมันซักเพลง มีแต่จะปล่อย อารมณ์ ตนเอง ซึมซับ บรรยากาศ แห่งความ "เหงา" ก็เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น